วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ซ่อมกลางภาค

บทที่ 1
1.บุคลากรในข้อใดมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากที่สุด
 ตอบ  นักวิเคราะห์ระบบ
2.ข้อใดคือยูติลิตี้โปรแกรม
ตอบ  .Winzip
3.ข้อถือว่าเป็นองค์ประกอบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
ตอบ  แป้นพิมพ์
4.ข้อใดไม่ใช้ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์
ตอบ  Games
5.ในกรณีที่ต้องการต่อสาย เมาส์ ต้องต่อเข้าอุปกรณ์ใด
ตอบ .เมนบอร์ด
6.ข้อใดไม่ใช้หน่วยความจำสำรอง
ตอบ  รอม
7.คอมพิวเตอร์ในข้อใดน่าจะนำไปใช้งานมากที่สุด
ตอบ  .อนาลอกคอมพิวเตอร์
8.ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ตอบ  ซุปเปอร์แวร์
9.องค์ประกอบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการแสดง ผลคือข้อใด
ตอบ  จอภาพ
10.ซอฟต์แวร์ที่เป็นภาษาของคอมพิวเตอร์คือข้อใด
ตอบ  Basic
บทที่ 2

1.ข้อใดคืออุปกรณ์ด้านอินพุทยูนิต
ตอบ เมาส์

2.หน่วยประมวลผลข้อมูลกลางคือข้อใด
ตอบ  ซีพียู

3.ข้อใดไม่ใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง
ตอบ เมนบอร์ด

4.เครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการฉีดพ่นหมึกข้อใด
ตอบ  อิงค์เจต

5.การที่ให้ปากกาเคลื่อนที่ไปมาบนแกนโลหะเพื่อวาดภาพลงบนกระดาษเป็นหลักการของอุปกรณ์ชนิดใด
ตอบ  Flatbed Plotter

6. อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อ่านรหัสข้อมูลที่ติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ คืออุปกรณ์ใด
ตอบ  BarCode Reader

7.หน่วยความจำภายในกล้องดิจิตอลสามารถเป็นภาพได้ประมาณกี่ภาพ
ตอบ  20

8 .ข้อใดไม่ใช่สื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
ตอบ  รอม

9.สื่อบันทึกข้อมูลที่มีความจุมากกว่า 4.7 GB คือข้อใด
ตอบ  ดีวีดีรอม

10.ข้อใดคือคุณสมบัติของแฮนดี้ไดร์ฟ
ตอบ  พกพาสะดวกจุข้อมูลมาก
บทที่ 3
2.ผู้ใช้ในระดับใดสามารถเปิดและปิดการใช้งานผู้ใช้ระดับ Guest ได้
1.ข้อใดไม่ใช้หน้าที่ของโปรแกรมระบบปฏิบัติการ
ตอบ จำข้อมูลช่วงที่มีการเชื่อมไฟ

2.ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Dos คือข้อใด
ตอบ ทำงานในโหมดตัวอักษร

3.ข้อเสียของระบบปฏิบัติการวินโดวส์95 คือข้อใด
ตอบ  ต้องสั่งงานโดยใช้เมาส์

4วินโดวส์95 ต่างจากวินโดวส์98 อย่างไร
ตอบ  ซอฟแวร์สนับสนุน

5.ระบบปฏิบัติการใดน่าจะมีความเหมาะสมในยุคปัจจุบัน (พ.ศ.2547)มากที่สุด
ตอบ  Windows XP

6.ระบบปฏิบัติการที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและการติดต่อสื่อสารระยะไกลคือข้อใด
ตอบ  Unix

7.ระบบปฏืบัติการประเภท Open Source คือข้อใด
ตอบ  Linux

8.ระบบปฏิบัติการใดเหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ SUN
ตอบ  Solaris

9.ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์แบบพกพาคือข้อใด
ตอบ  Windows CE


10.ระบบปฏิบัติการที่ถูกบรรจุในหน่วยความจำรอมคือข้อใด
ตอบ  Firmware

บทที่ 4

1.โฟลเเดอร์ที่ใช้เก็บ ไฟล์ โฟลเดอร์ หรือข้อมูล  ต่างๆ ที่เราต้องการลบทิ้งเรียกว่าอะไร
ตอบ  ถังขยะ

2.พื้นที่หน้าจอเมื่อเราเริ่มต้นเข้าสู่โปรแกรมเปรียบเหมือนโต๊ะทำงานของเราเรียกว่าอะไร
ตอบ เดสก์ท็อป

3.ทูลสทิป Toolstip คืออะไร
ตอบ ข้อความสำหรับอธิบายโปรแกรม

4.การจัดเรียงไอคอนแบบ Modified เป็นการจัดเรียงรูปแบบใด
ตอบ เรียงตามวันที่แก้ไขหรือสร้างไฟล์ของไอคอน

5.ปกติทาสก์บาร์ Taskbar จะอยู่ด้านใดของจอภาพ
ตอบ ด้านล่าง

6.การจัดโปรแกรมให้เป็นกลุ่มเดียวกันต้องใส่เครื่องหมายถูกหน้าช่องใด
ตอบ  Auto - hide the taskbar

7.ปุ่ม Maximize ใช้ทำหน้าที่อะไร
ตอบ เพิ่มเรือย่อขนาดของวินโดวส์

8.ปุ่ม Minimize ใช้ทำหน้าที่อะไร
ตอบ ปิดวินโดวส์

9.Title Bar คืออะไร
ตอบ ที่สำหรับแสดงวินโดวส์

10.ปุ่มรีสตาร์ท(Restart)ต้องเข้าที่ปุ่มใด
ตอบ  start

บทที่ 5 

1.ผู้ใช้ระดับใดที่สามารถ Log on เข้าไปสร้าง User Account
ตอบ  User


ตอบ  Guest

3.ตัวเลือกใดที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนรูปภาพผู้ใช้
ตอบ  Change the picture

4.ตัวเลือกใดที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนชนิดของผู้ใช้
ตอบ  Change the account type

5.ข้อใดถูกต้อง
ตอบ  Adiministrator สามารถลบผู้ใช้ได้

6.ข้อความที่ปรากฎว่า ' Do you want to keep you 's files ? เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนใด
ตอบ การเปลี่ยนภาพผู้ใช้

7.ตัวเลือกใดที่ใช้สำหรับการสร้างรหัสผ่าน
ตอบ Change the password

8.ข้อใดไม่ถูกต้อง
ตอบ  Guest  สามารถสร้างรหัสผ่านได้

9.Remove the password คือ อะไร
ตอบ ย้ายหรือลบรหัวผู้ใช้

10.Delete the account คืออะไร
ตอบ  ลบผู้ใช้

บทที่ 6
1.คำสั่งใดที่ใช้ในการเปลี่ยนชื่อไฟล์โฟลเดอร์
ตอบ Rename

2.คำสั่งใดที่ใช้ในการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์
ตอบ Delete

3.การจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Show in Group เป็นการจัดเรียงแบบใด
ตอบ  เรียงตามกลุ่มตัวอักษรแรกของชื่อ

4.การจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Size เป็นการจัดเรียงแบบใด
ตอบ เรียงตามขนาดความจุของไฟล์หรือโฟลเดอร์

5.เมื่อไฟล์หรือโฟล์เดอร์ถูกลบทิ้งจะย้ายไปอยู่ที่ใด
ตอบ ถังขยะ

6.ข้อใดถูกต้อง
ตอบ ไฟล์ที่อยู่ถังขยะสามารถกู้คืนได้

7.การเรียกดูคุณสมบัติของโฟลเดอร์ใช้คำสั่งใด
ตอบ Properties

8.Read-only คือคุณสมบัติแบบใดของโฟลเดอร์
ตอบ  ไม่มีข้อใดถูก


9.Hidden คือ คุณสมบัติแบบใดของโฟลเดอร์
ตอบ  ซ่อนโฟลเดอร์นี้เอาไว้


10.การค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ใช้โปรแกรมใด
ตอบ  Search

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการใช้งาน Windows 7

ในที่สุดการรอคอยก็ใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว สำหรับ Windows 7 ที่หมายว่าจะสร้างความนิยมให้กับผู้ใช้ได้ หลังจากที่เราผิดหวังจาก Windows Vista กันมาแล้ว ซึ่ง Windows 7 นั้น นอกจากมีความสวยงามน่าใช้ไม่แตกต่างไปจาก Vista แล้ว ยังใช้งานได้ดี ไม่แพ้กับ Windows XP เลย เรียกว่าหากได้ใช้ Windows 7 แล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปใช้ Windows XP อีกเลย
ดูจากรูปเราจะเห็นว่า Windows 7 แม้ จะพัฒนาต่อยอดมาจาก Windows Vista แต่หน้าตาก็มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างพอสมควร แม้จะใช้งานได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องปรับตัวกันนิดหน่อยเพื่อให้สามารถใช้งาน Windows 7 ได้ ง่ายขึ้น ซึ่งส่วนประกอบที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือส่วนของทาสก์บาร์ ที่ปรับปรุงให้เรียกใช้โปรแกรมได้ง่ายขึ้น มีการตัดทอนบางฟังก์ชั่นออกไป เช่น Quick Launch
WIndows7_desktop
ส่วนของซิสเท็มบาร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ไม่ให้แสดงผลเกะกะบนหน้าจอ รวมทั้งแถบของ Gadget ที่หายไป โดยเราสามารถเรียก Gadget ขึ้นมา และวางไว้ตรงไหนก็ได้ของหน้าจอ โดยไม่กินพื้นที่เหมือนกับ Gadget Bar ในWindows Vista อีก แน่นอนว่าเมื่อเวอร์ชันใหม่ออกมา ก็ต้องมีความสามารถใหม่ๆ ตามมาด้วย และนี่คือทิปที่จะช่วยให้คุณใช้งาน Windows? 7 ได้ง่ายและสะดวกขึ้น พร้อมกับสามารถปรับแต่งหน้าตาอินเทอร์เฟสต่างๆ ได้ตามต้องการ

สร้างแผ่นสำหรับแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์

คงบอกว่าหากวันใดวันหนึ่ง Windows ของคุณเกิดปัญหาขึ้น จะทำให้คุณต้องยุ่งยากขนาดไหน ดังนั้นเราควรที่จะสร้างหนทางสำหรับที่จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่าย ขึ้น โดยการสร้างแผ่นบู๊ตยามฉุกเฉินเอาไว้ก่อน โดยหลังจากที่ติดตั้ง Windows เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ให้เราเตรียมแผ่นดิสก์เปล่าๆเอาไว้ก่อน จากนั้นคลิกที่ Start > Maintenance > Create a System Repair Disc และใส่แผ่นดิสก์เปล่าลงไป และให้ Windows 7 สร้างแผ่นบู๊ตยามฉุกเฉินเอาไว้ก่อน ทีนี้ หาก Windows มีปัญหาในการทำงานเกิดขึ้น เราก็สามารถใช้แผ่นดิสก์นี้บู๊ต เพื่อแก้ไขปัญหา
Create_emergency_Disc

เขียนแผ่นซีดีและวิดีโอจาก ISO ไฟล์ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเบิร์น

คุณสมบัติอย่างหนึ่งของ Windows 7 ก็ คือเราสามารถสร้างเบิร์นแผ่นดีวีดีหรือซีดีได้ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเขียนแผ่นดิสก์ลงไปก่อน ซึ่งช่วยให้สะดวกขึ้น หากว่ามีแผ่นโปรแกรมในรูปแบบของไฟล์ ISO อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถคลิกที่ไฟล์ ISO นั้นแล้วเลือกไดรว์ที่จะเขียน พร้อมกับใส่แผ่นดิสก์เปล่าลงไป เท่านี้ Windows ก็จะพร้อมที่จะสร้างแผ่นดิสก์จาก ISO ไฟล์ได้เลย

แก้ไขปัญหาใน Windows 7 ให้รวดเร็ว

เวลาเกิดปัญหากับการใช้งาน Windows คงไม่ต้องบอกว่ามันยุ่งยากขนาดไหน เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากอะไรและจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆนั้นอย่างไรได้บ้าง แต่สำหรับ Windows 7 แล้ว มีเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถค้นหาปัญหา และแก้ไขได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญต่อไป โดยเราสามารถเข้าถึงการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ได้จากการเลือกที่ Control Panel > Troubleshoot Problems ซึ่งจะมีวิซาร์ด ช่วยในการค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น และวิธีการแก้ไข รวมทั้งยังเป็นการเช็คอัพระบบ และกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำงานของคุณได้
Troubles_Shooting

ซ่อนไอคอนของ Windows Live Messenger

ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ต้องใช้ Windows Live Messenger เป็นประจำบน Windows 7 คุณ จะพบว่าเมื่อเปิด Windows Live Messenger มันจะแสดงการทำงานค้างไว้บนทาสก์บาร์ให้เกะกะ ซึ่งหากคุณไม่ชอบใจ ก็สามารถซ่อนการทำงานของ Windows Live Messenger เอาไว้ได้ โดยก่อนอื่นต้องคลิกขวา เลือกที่ไอคอนของ Windows Live Messenger จากนั้นเลือกที่ Properties แล้ว กำหนดให้แอพพลิเคชั่น ทำงานในโหมดของ Windows Vista Compatibility จากนั้นก็เปิดการทำงานของ Windows Live ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้โปรแกรม Messenger จะถูกซ่อนการทำงานเอาไว้ ไม่โผล่มาให้เกะกะบนทาสก์บาร์อีก

เพิ่มพื้นที่การใช้งานให้กับเดสก์ท็อป

ใน Windows 7 เรา จะพบว่าทาสก์บาร์นั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก ซึ่งอาจจะกินพื้นที่บางส่วนของเดสก์ท็อปไปอย่างมาก รวมทั้งไอคอนต่างๆ ทำให้พื้นที่สำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั้น วางได้ไม่เยอะ ซึ่งเราสามารถที่จะปรับขนาดของไอคอนบนเดสก์ท็อปให้เล็กลงได้ โดยคลิกขวาที่ทาสก์บาร์ จากนั้นเลือกที่ Properties > Taskbar > Use small icons เพื่อที่จะให้ไอคอนบนทาสก์บาร์เล็กลง และเราก็จะได้พื้นที่ใช้งานบนเดสก์ท็อปนั้นเพิ่มขึ้น

เพิ่ม Quick Launch ให้กับทาสก์บาร์

ด้วยการมี Launch ที่สามารถเรียกโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาให้แล้ว ทำให้ Quick Launch เดิมที่มาพร้อมกับ Windows ก่อนหน้านี้ ถูกตัดออกไป แต่เราก็สามารถเปิดการทำงานของ Quick Launch ขึ้นมาได้ โดยให้คลิกขวาที่ทาสก์บาร์ จากนั้นเลือกที่ Toolbars/ New Tools Bar ก็จะปรากฏหน้าต่าง Folder Selection dialog ขึ้นมา ให้พิมพ์ข้อความตามนี้ลงไป %userprofile%\AppData\Roaming\Microsoft\Internet Explorer\Quick Launch แล้วคลิกที่ OK ก็จะมีแถบของ Quick Launch ปรากฏขึ้นที่ทาสก์บาร์ แต่ตอนนี้ Quick Launch จะดูเหมือนว่าไม่ปรากฏออกมาเพราะมีแถบข้อความ และคำอธิบายเต็มไปหมด ให้คลิกขวาที่ Quick Launch แล้วเอาเช็คบ็อกซ์ตรง lock the taskbar ออก แล้วคลิกขวาอีกครั้งที่ Quick Launch และให้นำเช็คสบ็อกซ์ หน้าข้อความ show Text และ Show Titles ออกไป ที่นี้เราก็สามารถลากไอคอนชอร์ตคัทของโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องการ นำมาวางไว้ตรง Quick Launch นี้ได้ และเมื่อเป็นที่พอใจแล้ว ก็ให้คลิกขวาที่ทาสก์บาร์ พร้อมกับล็อคทาสก์บาร์เอาไว้ให้เรียบร้อย
QuickLuanch

เปลี่ยนการทำงานให้กับเพาเวอร์สวิทช์

ปกติหน้าที่ของเพาเวอร์สวิทช์ ก็คือการเปิดเครื่อง แต่ขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ล่ะ จะให้มันทำหน้าที่เป็นอะไร ในWindows 7 เรา สามารถกำหนดการทำงานให้กับเพาเวอร์สวิทช์ได้ โดยคลิกขวาที่ไอคอน Windows มุมล่างซ้าย แล้วเลือกที่ properties จากนั้น คลิกที่แท็บ Start Menu แล้วตรง power button action ก็กำหนดหน้าที่ที่ต้องการให้กับปุ่มเพาเวอร์ได้ ทั้งการชัตดาวน์ รีสตาร์ท หรือล็อคเครื่องก็ได้เช่นกัน
Power Button Option

ควบคุมการทำงานบน Windows ด้วยปุ่ม Windows คีย์

หากคุณต้องการปรับการแสดงผลขณะทำงานบน Windows 7 เพื่อ ให้สะดวกขึ้น เราสามารถใช้ปุ่ม windows คีย์ เพื่อเป็นคีย์ลัดในการจัดการการแสดงผลของหน้าต่างบน Windows ได้ ไม่ว่าจะเป็นการย่อขยาย จัดการแสดงผลให้เต็มหน้าจอ หรือย่อทั้งหมดลงมา หรือเรียกการทำงานของหน้าต่างที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น ซึ่งคีย์ลัดนี้ เราสามารถทำงานกับ Windows ได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยสามารถแบ่งการทำงานที่ต้องใช้ร่วมกับปุ่ม Windows คีย์ได้ดังนี้
  • ปรับขนาดของหน้าต่างให้ตรงกับความต้องการ
-?? ?เราสามารถใช้ปุ่ม Windows คีย์ ร่วมกับปุ่มลูกศร เพื่อปรับขนาดของ Windows ได้ตามต้องการ เช่น
-?? ?Win + ลูกศรขึ้น และ Win+ ลูกศรลง? เป็นการขยายขนาดของหน้าต่างให้เต็มหน้าจอ และย่อขนาดกลับลงมาเท่าเดิม
-?? ?Win + ลูกศรซ้าย และ Win + ลูกศรขวา เป็นการกำหนดตำแหน่งของการแสดงผลอยู่ทางครึ่งของหน้าจอทางซ้ายมือหรือว่าขวามือ
-?? ?Win + Shift +ลูกศรขึ้น และ Win+Shift+ ลูกศรลง? เป็นการขยายขนาดของหน้าต่างให้เต็มหน้าจอทางด้านแนวตั้ง และย่อขนาดกลับลงมาเท่าเดิม
  • แสดงผลออกโปรเจ็คเตอร์

หมดปัญหากับการที่ต้องควานหาปุ่ม เพื่อเลือกการแสดง หากต้องการต่อกับโปรเจ็คเตอร์หรือมอนิเตอร์ภายนอก เพราะเพียงแค่ใช้คีย์ Win + P ก็จะเป็นการเลือกการแสดงที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลเฉพาะหน้าจอหลัก การแสดงผลหน้าจอทั้งสองให้เหมือนๆกัน การแสดงแบบบนจอที่สองแบบ extend และการแสดงผลเฉพาะจอที่สองเพียงอย่างเดียว
แต่หากว่าคุณต้องการแสดงผลเฉพาะพรีเซนเทชั่น เพื่อออกไปทางโปรเจ็คเตอร์ คงไม่อยากให้การแสดงผลบนหน้าจอถูกขัดจังหวะด้วยสกรีนเซฟเวอร์ หรือว่าข้อความทาง IM ที่ส่งมาให้คุณ เราสามารถใช้ปุ่ม Win+X เพื่อกำหนดการแสดงผลเฉพาะพรีเซนเทชั่นได้ เท่านี้เวลาข้อความทาง IM ส่งเข้ามาหรือว่าสกรีนเซฟเวอร์ทำงาน ก็จะไม่มีผลต่อการแสดงผลบนหน้าจอโปรเจ็คเตอร์อีก
  • ย่อหน้าต่างให้เลือกเฉพาะที่ใช้งานปัจจุบัน

เราสามารถย่อหน้าต่างอื่นๆที่ไม่ได้ใช้งาน ให้ลงไปอยู่บนทาสก์บาร์ได้ โดยกดคีย์ Win+ Home ซึ่งหน้าต่างอื่นๆที่เราไม่ได้ใช้งานอยู่ ก็จะถูกย่อลงเองโดยอัตโนมัติ และเมื่อกด Win+Home อีกครั้ง ก็จะกลับมาแสดงผลตามปกติ
  • ทำงานแบบหลายมอนิเตอร์พร้อมๆ กัน

ถ้าคุณต่อมอนิเตอร์หลายๆตัวเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เราสามารถเคลื่อนการทำงานจากมอนิเตอร์หนึ่งไปยังอีกมอนิเตอร์หนึ่งได้ โดยกดปุ่ม Win+shift+ปุ่มลูกศรซ้าย หรือขวา เพื่อเลื่อนการทำงานไปยังมอนิเตอร์ที่ต้องการได้
  • เรียกใช้โปรแกรมบนทาสก์บาร์ด้วยคีย์ลัด

ในทาสก์บาร์ของ Windows 7 จะ มีการจัดเรียงโปรแกรมเอาไว้อยู่ และเราสามารถที่จะเรียกใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้โดยง่าย เพียงแค่เล็งไว้ว่าแอพพลิเคชั่นนั้นๆอยู่ตำแหน่งที่เท่าไหร่ นับจากปุ่มสตาร์ทเป็นต้นมา เราสามารถเรียกแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วขึ้น จากการที่กดคีย์ Win+คีย์ตัวเลข ก็จะเป็นการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นลำดับตัวเลขนั้นขึ้นมาทันที
  • มองทะลุเดสก์ทอป

ใน Windows 7 มี ฟังก์ชั่นบางตัวที่เรียกว่า? Gadget สำหรับบอกเวลา บอกวันที่ รวมถึงดูโน้ตต่างๆได้ ซึ่งปกติหากเราต้องการดูของต่างๆ ที่อยู่บนเดสก์ท็อป เราต้องย่อหน้าต่างลงมาทั้งหมดเสียก่อน แต่หากว่าเราต้องการแค่ดูเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร Windows 7 ยอมให้คุณกดปุ่ม Win+Space เพื่อมองทะลุหน้าต่างทั้งหมดที่อยู่ ให้คุณมองเห็นเดสก์ท็อปได้
desktop-aero-peek
  • ท่องไปตามทาสก์บาร์

หากต้องการเรียกแอพพลิเคชั่นที่เปิดเอาไว้บนทาสก์บาร์อย่างรวดเร็ว เราสามารถใช้คีย์ Win+T เพื่อเลือกใช้งานโปรแกรมที่อยู่บนทาสก์บาร์ได้ โดยเลือกเป็นกลุ่มของแอพพลิเคชั่น เพื่อสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้สะดวกกว่า
desktop-taskbar
  • ขยายการมองเห็นให้กับ Windows

หากว่าคุณเป็นคนที่สายตาไม่ดี หรือมีปัญหากับการมองบางส่วนของภาพได้ไม่ชัดเจน Windows 7 ยอม ให้เราสามารถซูมภาพเข้าไปได้ เพื่อมองบางส่วนในการแสดงผลให้ชัดเจนขึ้น โดยใช้คีย์ Win++ ก็จะเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น magnifier ในการขยายภาพทั้งหมดบนหน้าจอขึ้นมา และหากต้องการกลับสู่การแสดงผลปกติ ก็เพียงแค่ใช้คีย์ Win + -? ก็จะเป็นการย่อให้ Windows กลับมาแสดงผลเป็นปกติ เรียบร้อยเหมือนเดิม
  • เรียกใช้งาน Gadget ได้อย่างรวดเร็ว

Gadget บน Windows 7 ให้ ประโยชน์ในการทำงานของเราได้อย่างมาก เช่น ปฏิทิน หรือว่านาฬิกา แต่ในขณะทำงานอยู่ มักจะไม่สะดวกที่จะต้องย่อหน้าต่างลงไป ซึ่งหากเราต้องการเรียกใช้งาน Gadget อย่างปัจจุบันทันด่วน เราสามารถเข้าถึง Gadget ได้อย่างรวดเร็วด้วยคีย์ Win+G เพื่อให้ Gadget ขึ้นมาอยู่บนท็อปของหน้าต่างการทำงานปัจจุบันได้ทันที
desktop-gadgets

ทำงานง่ายขึ้นด้วย ALT คีย์

ใน Windows 7 สามารถ ใช้งานคีย์ลัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียกใช้งาน Windows ได้อย่างมาก และ ALT ก็คือคีย์อเนกประสงค์อีกคีย์หนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้งานร่วมกับคีย์ต่างๆ เพื่อให้ทำงานร่วมกับ Windows ได้สะดวกขึ้น
เรียกใช้งานเมนูบาร์บน Explorer
ด้วยฟังก์ชั่นพิเศษที่ไมโครซอฟท์เห็นว่ามันอาจจะเกะกะ ก็เลยซ่อนเมนูบาร์ใน Explorer เอาไว้ซะ ทำให้การปรับแต่งการทำงานต่างๆนั้นอาจจะไม่สะดวก แต่เราสามารถเรียกเมนูบาร์ออกมาได้ง่ายๆ โดยกดปุ่ม alt หนึ่งครั้งก็จะเป็นการแสดงผลเมนูบาร์ขึ้นมา และเมนูบาร์นี้จะถูกซ่อนเอาไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อเราไม่ได้ใช้งาน

เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งาน Explorer

ใน Explorer ตัวล่าสุดของ Windows 7 เราสามารถใช้คีย์ลัด ALT ร่วมกับคีย์ต่างๆ เพื่อให้ใช้งาน Explorer ได้ง่ายขึ้น เช่น
เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งาน-Explorer7
  • ALT+UP เป็นการกระโดดไปยังโฟลเดอร์แรกสุดคือ Desktop โดยอัตโนมัติ หรือย้อนกลับไปโฟลเดอร์รูท หากว่าเราทำงานอยู่ในโฟลเดอร์ย่อยๆ ของโฟลเดอร์รูทนั้น
  • ALT + Right คือการไล่สเต็ปไปยังโฟลเดอร์ ที่เปิดขึ้นมาล่าสุด
  • ALT + LEFT คือการย้อนกลับไปทำงานยังโฟลเดอร์ก่อนหน้าโฟลเดอร์ปัจจุบัน
  • ALT +D เป็นการทำงานกับแอดเดรสบาร์ของพาธ การทำงานปัจจุบัน
  • F4 เป็นการเรียกใช้งาน drop down menu ของแอดเดรสบาร์
  • ALT+ENTER เป็นการเรียก Properties ของไฟล์ที่เคอร์เซอร์กำลังถูกเลือกอยู่ในขณะนั้น
  • CTRL+mousewheel เป็นการเปลี่ยนขนาดของไอคอนใน explorer
  • F11 เป็นการเปลี่ยนโหมดของ explorerให้ทำงานในโหมด Full Screen

เรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นในโหมดของ Windows Compatibility เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมเก่าได้

ปัญหาใหญ่ๆของการใช้งาน Windows 7 ก็ คือการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเดิมๆ ที่เคยใช้งานได้ใน Windows XP หรือว่า Vista ซึ่งหากเราเรียกใช้งานตรงๆ อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ Windows 7 จึง มีโหมดการทำงาน Windows Compatibility เพื่อให้นำแอพพลิเคชั่นเดิมๆที่สามารถเคยใช้งานได้ใน Windows XP หรือ Vista ให้ใช้งานได้บน Windows 7 โดย การคลิกขวาที่ไอคอนของแอพพลิเคชั่นนั้นๆ จากนั้นเลือกที่ Properties แล้วไปยังแท็บ compatibility mode และเลือก Run this program in compatibility mode for ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าให้แอพพลิเคชั่นตัวนั้น ทำงานในโหมดของ Windows เวอร์ชั่นไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Windows XP หรือว่า Windows 95 ก็ยังไหว โดยในโหมด compatibility แนะนำว่าควรที่จะเลือก disable visual themes และ desktop composition เอาไว้ด้วย และหากว่าแอพพลิเคชั่นนั้นเป็นวิดีโอเกม ก็ควรที่จะเลือก Run this program as an administrator เอาไว้ด้วย เพื่อที่ Windows 7 จะไม่ตั้งคำถามสำหรับคุณอีก
Program Compatibility

ใช้งาน Sticky Notes เพื่อเตือนความจำ

แอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัวได้ถูกเติมเต็มเข้ามาใน Windows 7 นี้ เพื่อให้การทำงานของผู้ใช้นั้นง่ายขึ้น โดยไม่ต้องไปหาโปรแกรมอื่นๆมาติดตั้งให้ยุ่งยากอีก เช่น Sticky Notes หรือ กระดาษเตือนความจำ ซึ่งให้เราสามารถโน้ตข้อความต่างๆ วางไว้บนเดสก์ท็อปได้สะดวก โดยเราสามารถเรียกใช้งาน Sticky Notes จากการพิมพ์ notes ที่ช่อง Search ก็จะเป็นการหาแอพพลิเคชั่น Sticky Note ให้เราเองโดยอัตโนมัติ และเราสามารถเปลี่ยนสีของกระดาษโน้ตได้ โดยการคลิกขวาที่ Sticky Note แล้วเลือกสีกระดาษโน้ตตามต้องการ? และหากต้องการเพิ่มกระดาษโน้ตก็สามารถคลิกที่เครื่องหมาย + บนกระดาษโน้ต และเมื่อต้องการปิดการใช้งาน Sticky Note ก็ให้กด Alt+F4 ก็จะเป็นการปิดการทำงานลง แต่จะเก็บข้อความทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งเมื่อเปิดการทำงานขึ้นมาอีก ข้อความเดิมที่มีอยู่ก็จะปรากฏขึ้นมาเหมือนเดิม
Sticky Notes

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

AVG Anti-Virus Free Edition 2011 /// Norton AntiVirus 2011

Installing AVG Anti-Virus Free Edition 2011

วิธีการติดตั้งและอัปเดทไวรัสดาต้าเบสโปรแกรม AVG Anti-Virus Free Edition 2011
ก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำโปรแกรม AVG Anti-Virus Free Edition 2011 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์แบบฟรีแวร์ยอดนิยมสำหรับผู้ใช้วินโดวส์ โดยในเวอร์ชันนี้ได้รับการพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นและมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่หลายอย่างได้แก่ Social Networking Protection, Smart Scanning, Autofix Button, Community Protection Network และ Protective Cloud Technology โดยออกให้ดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา สำหรับบทความนี้จะเป็นการสาธิตวิธีการติดตั้งและอัปเดทไวรัสดาต้าเบส (หรือไวรัสเดฟินิชัน)  โดยจะทำการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows XP SP3 เวอร์ชัน 32 บิท

ทั้งนี AVG Anti-Virus Free Edition นั้นนับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่กำลังมองหาโปรแกรมป้องกันไววัสแบบฟรีแวร์ไว้ใช้งานเนื่องจากมีการทำงานที่น่าเชื่อและที่สำคัญทาง AVG vนุญาตใช้งานได้ฟรีสำหรับการใช้งานส่วนตัว (Private and Non-Commercial)  สำหรับรายละเอียดการดาวน์โหลดสามารถอ่านได้ที่ ดาวน์โหลด AVG Anti-Virus Free Edition 2011

สำหรับการติดตั้ง AVG Anti-Virus Free Edition 2011 มีขั้นตอนดังนี้
1. ดับเบิลคลิกไฟล์ avg_free_x86_all_2011_1120a3152.exe จากนั้นในหน้า Welcome ให้คลิก Accept

Welcome: AVG Installer

2. ในหน้า Activate Your License ให้คลิก Next
3. ในหน้า Select type of installation เลือกการติดตั้งแบบ Quick Install หรือ Qudtom Install แล้วคลิก Next

Select type of installation

4. ในหน้า Custom Options ใหเลือกค่าต่างๆ ความต้องการแล้วคลิก Next

Custom Options

5. ในหน้า Install the AVG Security Toolbar แนะนำให้ยกเลิกการเลือกเช็คบ็อกซ์ Install the AVG Security Toolbar จากนั้นคลิก Next แล้วรอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ

หมายเหตุ: ในกรณีที่มีการติดตั้ง AVG Anti-Virus Free Edition เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมจะให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องก่อนจึงจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้

Install the AVG Security Toolbar

6. ในหน้า Installation was succesful แนะนำให้ยกเลิกการเลือกเช็คบ็อกซ์ I agree to participate in the AVG 2011 web safty and Product Improvement Programme to improve my security in axxordance to AVF 2011's Privacy Policy เสร็จแล้วคลิก Finish เพื่อจบการติดตั้ง

Installation was succesful

หลังจากการติดตั้งแล้วเสร็จโปรแกรม AVG Anti-Virus Free Edition 2011 จะพยายามทำการอัพเดทไวรัสดาต้าเบส ซึ่งในกรณีที่การออกอินเทอร์เน็ตต้องผ่านพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ (Proxy server) อาจทำให้การอัปเดทเกิดความล้มเหลวโดยปรแกรมจะแสดงข้อความในหน้า AVG Free User Interface  ว่า "You are not fully protected" ดังรูปด้านล่าง

AVG Free User Interface

สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาการไวรัสดาต้าเบสไม่ได้นั้นทำได้โดยการคอนฟิกพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ ตามขั้นตอนดังนี้

1. บนหน้าต่าง AVG Free User Interface ให้คลิกเมนู Tools แล้วเลือก Advanced settings
2. ในหน้าต่าง Advanced AVG settings ในส่วนเนวิเกตไปยังโฟลเดอร์ Update และเลือกหัวข้อ Proxy  จากนั้นในส่วนของ Update settings-Proxy ด้านขวามือให้เลือกการตั้งค่าตามความเหมาะสมซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ คือ Don't use proxy จะทำการอัปเดทโดยตรง (ไม่ผ่านพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์), Use proxy จะทำการอัปเดทผ่านทางพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ และ Try connection use proxy if it fails, connect directly จะพยายามทำการอัปเดทผ่านทางพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ก่อนหากเกิดการล้มเหลวจะให้พยายามทำการอัปเดทโดยตรง (ไม่ผ่านพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์) เลือกเสร็จแล้วคลิก OK

โดยในกรณีที่เลือกแบบ Use proxy หรือ Try connection use proxy if it fails, connect directly นั้นจะต้องเลือกลักษณะการทำงานแบบแบบใดแบบหนึ่งระหว่าง Manual หรือ Auto ด้วย
• หากเลือกแบบ Manual ให้พิมพ์ชื่อพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และหมายเลขพอร์ตในกล่อง Server และ Port ตามลำดับ หากพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ต้องทำการตรวจสอบผู้ใช้ก็ให้เลือกเช็คบ็อกซ์ Use PROXY authentication แล้วเลือก Authentication type และพิมพ์ยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดในกล่าง Username: และ Password: ตามลำดับ
• หากเลือกแบบ Auto ก็ให้เลือกว่าจะใช้การตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์จาก Browser (Internet Explorer, Firefox, Mozilla หรือ Opera) หรือ Script หรือ Autodetect

Update settings-Proxy

3. ในหน้าต่าง AVG Free User Interface ให้คลิกปุ่ม Fix all แล้วรอจนโปรแกรมทำการอัปเดทแล้วเสร็จ ซึ่งจะได้หน้าต่างดังรูปด้านล่าง

You are protected

หมายเลขเวอร์ชันของ AVG Anti-Virus Free Edition 2011
AVG Anti-Virus Free Edition 2011 มีหมายเลขเวอร์ชัน

About: AVG Anti-Virus Free Edition 2011

***********************************************************************************************************************
Norton Antivirus 2011 เป็นหนึ่งของโลกป้องกันไวรัสชั้นนำ มันจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพไวรัสเวิร์ม, สปายแวร์, มัลแวร์, บอ, rootkits, ... โดยไม่ต้องชะลอตัวลงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เทคโนโลยีการป้องกันการกระทำ Sonar 3 อย่างรวดเร็วตรวจสอบภัยคุกคามใหม่ที่น่าสงสัยจากอินเทอร์เน็ต คุณมีความปลอดภัยสามารถแชทได้ส่งอีเมลและแชร์ไฟล์ออนไลน์ เชิงรุกแจ้งเตือนคุณเมื่อโปรแกรมประยุกต์คือการชะลอตัวลงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถเปลี่ยนไปปรับปรุงประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์
ความต้องการของระบบ :
ชิปเซ็ต Ly300 MHz สำหรับ Win XP, 1 GHz สำหรับ Windows Vista / 7
หน่วยความจำ 256 MB RAM (512 MB RAM สำหรับเครื่องมือการกู้คืน)
ไดรฟ์ใน 300 MB
ระบบปฏิบัติการ : Windows XP (SP2 หรือสูงกว่า), Vista 32bit / 64bit, Windows 7 32bit / 64bit

การสนับสนุนสำหรับเบราว์เซอร์ Microsoft Internet Explorer 32 - bit 6.0 หรือสูงกว่า, Mozilla Firefox 3.0 หรือสูงกว่า
Norton Antivirus 2011 มีราคาค้าเป็น $ 39.99 แต่ตอนนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ 6 เดือนผลิตภัณฑ์ฟรีผ่าน 11 ขั้นตอนที่ กระบวนการนี ้เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างยาว แต่ที่ง่ายและรวดเร็ว การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างการติดตั้ง นี้เป็นข่าวเก่าสวย แต่ผมอยากจะเขียนอาจจะมีประโยชน์สำหรับคุณไม่ทราบว่าโดยการทำเช่นนี้
1 ในหน้าถัดไปเพื่อสร้างบัญชี Norton : [เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนสามารถมองเห็นการเชื่อมโยง คลิ๊กที่นี่เพื่อลงทะเบียน].
2 ดาวน์โหลดและติดตั้ง Norton Antivirus 2009 [เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนสามารถมองเห็นการเชื่อมโยง คลิ๊กที่นี่เพื่อลงทะเบียน]
นี้เป็นรุ่นโปรโมชั่นของเยอรมันหกเดือน อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้คีย์ใบอนุญาตให้เปิดใช้งานรุ่นนี้สำหรับ Norton AntiVirus 2011 ทำงาน 100%
3 มีคุณรันแฟ้มที่ดาวน์โหลดให้เสร็จสิ้นกระบวนการการดำเนินการของการติดตั้ง Norton Antivirus 2009 รุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคลิกที่ "ZUSTIMMEN & INSTALLIEREN" เพื่อดำเนินการติดตั้ง
4 หลังจากติดตั้ง Norton Antivirus 2009 ประสบความสำเร็จให้คุณเปิดหน้าต่างหลักและคลิกที่"บัญชีของนอร์ตัน"ในหน้าต่างใหม่ป้อนที่อยู่อีเมลของคุณสร้างบัญชี Norton ในขั้นตอนที่ 1 จากนั้นคลิก "นักเขียน"

5 ยังคงป้อนรหัสผ่านด้วยเช่นกันในขั้นตอนที่ 1 และคลิกที่ "ANMELDEN"
6 ทันทีที่มีหน้าต่างโต้ตอบที่จะประกาศเวลาการใช้ Norton Antivirus 2009 เป็นเวลา 180 วันจะขึ้นมาให้คลิกที่ปุ่ม "VERLANGERN JETZT" เพื่อดำเนินการต่อ
7 ถัดไปคุณเข้าสู่ระบบ (เข้าสู่ระบบ) เข้าสู่บัญชีของคุณบนเว็บไซต์ของนอร์ตันโดยคลิกที่นี่ : [เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนสามารถมองเห็นการเชื่อมโยง คลิ๊กที่นี่เพื่อลงทะเบียน].
8 ในหน้าการจัดการบัญชีใน Norton และโดยเฉพาะในบัตร ผลิตภัณฑ์ข้อมูลเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต 180 วันทดลองใช้ Norton AntiVirus คุณจะขึ้น (คลิกที่ ลูกศร ระดับแนวหน้า Norton AntiVirus สำหรับรายละเอียด) คัดลอกบรรทัดโค้ดต่อไปนี้ คีย์ผลิตภัณฑ์ แล้วเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัยในคอมพิวเตอร์ของคุณ (หมายเหตุ : ถ้าไม่คุณไปออกจากระบบและเข้าสู่ระบบอีกครั้ง)
9 ดาวน์โหลด Norton Antivirus 2011 ที่นี่ : [เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนสามารถมองเห็นการเชื่อมโยง คลิ๊กที่นี่เพื่อลงทะเบียน]
10 ไม่จำเป็นต้องลบ Norton Antivirus 2009, โดยอัตโนมัติจะย้ายไปเมื่อคุณติดตั้ง Norton Antivirus 2011 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการติดตั้งรุ่น 2011 ให้เปิดคลิกหน้าต่างหลักของ "สมัคร" ที่ด้านล่างของหน้าต่าง
หมายเหตุ : หากระบบนั้นจะต้อง"เริ่มต้น", ปฏิบัติตามข้อกำหนดและรีบูตเครื่อง
11 ในหน้าต่างใหม่ให้ใส่รหัสคีย์ผลิตภัณฑ์ที่คุณเก็บไว้เพื่อเปิดใช้งานใบอนุญาตหกเดือนก่อนหน้านี้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ จากนั้นกด "ปิด" ปิดหน้าต่าง ดังนั้นคุณเองแล้ว Norton Antivirus 2011 180 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
คุณควรจะรวมไฟร์วอลล์ที่มีประชา Firewall, อย่างเข้ากันได้กับ Norton AntiVirus 2011 และมันก็เป็นชุดที่สมบูรณ์แบบ
ฉันขอให้คุณประสบความสำเร็จ!

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีการ สแกน Drive:D

วิธีการ สแกน Drive:D 

ลักษณะของ Antivirus ที่ดี
เวลากำลัง scan ฆ่าไวรัส ไม่ต้อง กลับมาถามผู้ใช้ว่า ไฟล์นี้ติดไวรัส จะทำลายไวรัสมั๊ย ไฟล์นี้ใช้งานอยู่จะลบมั๊ย เราเป็นเจ้านาย อันนี้เอามั๊ย อันนั้นทำมั๊ย เราก็รำคาญน๊ะ บางทีกด yes กด No เป็นไฟล์ระบบ windows ถูกลบ เครื่องบูตไม่ได้ งานด่วนเลยไม่เสร็จ
อย่าพูดมาก ลงมือเลย
ตามขั้นตอนครับ
1.เห็น antivirus ตัวหนึ่ง ดี ณ เวลานี้ คลิก download ที่นี่เลยครับ หรือที่ web เจ้าของโปรแกรมแต่รอนานหน่อย ที่ ที่นี่ (เพราะ download ไว้นาน
อาจใช้ไม่ได้ ) Save เอาไว้ที่ Drive D: เป็น version 8 มค. 52
2.ปิดระบบ ย้อนเวลาหาอดีต เพราะอดีตมีไวรัส ตัดกรรมมันซ่ะเลย ไปที่หน้าจอ คลิกขวาที่ รูป My Computer คลิก Poperties

                                                                                                              3.คลิกแถบ System Restore คลิก เครื่องหมายถูกที่ สี่เหลี่ยม Turn Off System Restore on all Drives.





ระบบย้อนหลังปิดไปแล้ว
4.ต่อไป ขั้นตอนการฆ่าไวรัส แค่ดับเบิลคลิก ไฟล์ที่ ดาวโหลด มาที่เก็บไว้ที่ ไดรฟ์ D ก็ แล้ว Scan ก็ จบ
ไม่มีอะไร ยาก แต่ ณ เวลานี้ เครื่องเรามีไวรัสแล้ว เราจะ scanไวรัสทำงาน ภายใต้ ระบบที่ไม่สะอาด จะดีเหรอ
ถ้าอาการ ไม่หนักมาก็เอา เลย แต่ถ้าหนัก ก็ ให้ทำงานภายใต้ Save Mode ต้อง restart boot เครื่องใหม่ ขณะที่ boot
กด F8 หลายๆ ครั้ง จะมีเมนูให้เลือก ให้เลือก save mode กด enter จนเข้า save Mode ซึ่งเป็น Mode ที่ไวรัสไม่ทำงาน
ก็สามารถ scan ได้เลย
5.ขั้น ตอนการ Scan เปิด My computer เปิด drive D: จะเห็นไฟล์ที่ ดาวโหลดมา ดับเบิลคลิก ให้ทำงานได้เลย หลังดับเบิลคลิกแล้ว ต้อง รอนิดหนึ่ง

กดปุ่ม Accept ยอมรับ เงื่อนไข
..
แล้วเข้าสู่ หน้าต่าง พร้อมฆ่า แต่อย่าเพิ่งฆ่า (บาป) ต้องดูว่า ขณะนี้เครื่อง Run แอนตี้ไวรัสอื่นอยู่มั๊ย
ถ้าทำงานอยู่ ให้ stop ก่อน (ส่วนใหญ่อยู่ล่างขวา คลิกขวาจะมีให้ stop หรือ disable ) เมื่อ stop เสร็จต้องสั่งให้ Norman Scan ไวรัสทันที อย่าให้เป็นสูญญากาศนาน
เพราะไวรัส จะแย่งลงมือก่อน
เมื่อกด ปุ่ม Scan ในช่อง Scan Result เป็น การรายงานการฆ่า ถ้าขึ้นสีแดง แสดงว่ามีไวรัสที่สำคัญที่ฆ่าแล้ว

ข้อดี คือ มันไม่ถามเราว่า ไฟล์นี้ลบมั๊ย ทั้งที่ ไฟล์นั้นมันก็ ข้าผู้น้อยสมควรตาย (ไฟล์ขยะ) แล้วก็ตาม
ร้องเพลง รอ สัก ชั่วโมงมั้ง กว่าจะเสร็จ แล้วแต่ปริมาณไฟล์ในเครื่อง
ถ้าอยากหยุดก็ กดปุ่ม Stop ได้ แต่อย่าเลยครับ

6.เมื่อ ฆ่าหมดแล้ว ทีนี้ การป้องกันตนเอง จากไวรัส ทั้งสองตัวที่แนะนำ ลงเสร็จแล้วต้อง Run ลองดูโดยที่เครื่องไม่ restart ก่อน
6.1 ลง antivirus ที่ฆ่าแล้วได้ผล Download ที่นี่
6.2 ลง antivirus จากการต่อ Handry Drive ที่ฆ่าแล้วได้ผล
Download ที่นี่

7.ถ้า Avast ฆ่าไม่ได้ ลอง Fix ไวรัสจาก โปรแกรมนี้ หรือ ตัวนี้ Scan ผ่านเนต
8.ถ้า เจอ VmwareService ให้ run regedit => HKEY_LOCAL_MECHINE => system => CurrentControlSet =>service =>VmwareService ลบซ่ะ
8.1 ที่ folder c:\windows\system\ลบ vmwhereservice.exe

วิธีสแกนไวรัส ใน แฟรชไดร์

วิธีสแกนไวรัส ใน แฟรชไดร์
วิธีลดปัญหาไวรัสจาก Flash Drive



ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส Autorun (ไวรัส Autorun เป็นตัวหนึ่งที่เป็นปัญหาหลักของผู้ใช้งาน Flash Drive)
ตรวจสอบไวรัสจาก Flash Drive ก่อนใช้งาน
เสียบ Flash Drive ใน USB drive
รอจนกระทั่งหน้าจอ แสดงว่า สามารถใช้งานได้
ให้กดปุ่ม Windows Logo + E เป็นการเปิดหน้าต่าง Explorer
ให้สังเกตุ drive ของ USB ที่เพิ่งแสดง
ให้คลิกขวาที่ driveของ USB และคลิกคำสั่ง "Scan for Viruses" หรือคำที่มีความหมายใกล้เคียง (ทั้งนี้ ขึ้นกับโปรแกรม Anti-virus แต่ละแบรนด์)
แค่นี้ก็สามารถลดปัญหาได้อย่างมากแล้วครับ สำหรับกรณีที่โปรแกรม anit-virus ของคุณ ตรวจพบไวรัส แนะนำให้ทำการ "Revove" ก่อน ถ้าไม่ได้ให้ "Quarantine" หรือ "Delete" ทิ้งไปจะดีที่สุด แต่ทั้งนี้ คงต้องพิจารณาว่า ไฟล์ที่ติดไวรัสนั้น เป็นไฟล์ของ Windows หรือเปล่า (ซึ่งผู้ใช้งานทั่ว

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีสแกนไวรัสบนฮาร์ดดิสก์ผ่าน Windows Explorer

วิธีสแกนไวรัสบนฮาร์ดดิสก์ผ่าน Windows Explorer

  1. แนะนำให้กดปุ่ม Windows Logo + E เพื่อเปิด Explorer
  2. จากนั้น คลิกขวา เลือกคำสั่ง "Scan for Viruses" (อาจมีคำคล้ายๆ กัน ทั้งนี้ ขึ้นกับโปรแกรม anti-virus ที่คุณใช้งาน)
  3. รอจนกระทั่งสแกนเสร็จสิ้น
  4. ดูผลลัพธ์ของการสแกน?
  5. ถ้าโปรแกรม antivirus ของคุณไม่ได้มีกาลบหรือจัดการแบบอัตโนมัติ? เราสามารถคลิกคำสั่งในการสั่งจัดการได้ ทั้งนี้ ขึ้นกับแต่ละโปรแกรม เรียกว่า ถ้ามีคำสั่ง "Next" ให้ทำขั้นตอนต่อไป ก็มักแสดงว่า ยังไม่ได้มีการจัดการไวรัสนั้นๆ? แนะนำให้ทำตามขั้นตอนที่หน้าจอ

สแกนไวรัสบนฮาร์ดดิสก์ผ่านตัวโปรแกรมโดยตรง

Scan Virus with Kaspersky

  1. เปิดโปรแกรม antivirus ที่คุณใช้งาน
  2. โดยปกติ จะมีหน้าแท็ป หรือหัวข้อใด หัวข้อหนึ่ง เกี่ยวกับการสั่ง Scan
  3. ให้คลิกเลือกหัวข้อการ scan นั้นๆ
  4. แนะนำให้ scan ทุกๆ drive และเลือก Full Scan (ดูตัวอย่างจากโปรแกรม Kaspersky)
  5. เลือกคำสั่ง Start Scan?
ทั้งนี้ แต่ละคำสั่ง จะขึ้นกับแต่ละโปรแกรม แต่จะมีหลักการเช่นเดียวกันหมด ต้องลองทดสอบดูกันน่ะครับ


ข้อควรทราบการสแกนไวรัส


ระหว่างการสแกนไวรัส อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง? และทางที่ดีที่สุด แนะนำให้หยุดการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย หรืออินเตอร์เน็ตก่อน


วิธีลดปัญหาไวรัสจาก Flash Drive


Scan Virus Flash Drive

  1. ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส Autorun (ไวรัส Autorun เป็นตัวหนึ่งที่เป็นปัญหาหลักของผู้ใช้งาน Flash Drive) อ่านรายละเอียดและวิธีการใช้งานที่นี่
  2. ตรวจสอบไวรัสจาก Flash Drive ก่อนใช้งาน
    1. เสียบ Flash Drive ใน USB drive
    2. รอจนกระทั่งหน้าจอ แสดงว่า สามารถใช้งานได้
    3. ให้กดปุ่ม Windows Logo + E เป็นการเปิดหน้าต่าง Explorer
    4. ให้สังเกตุ drive ของ USB ที่เพิ่งแสดง
    5. ให้คลิกขวาที่ driveของ USB และคลิกคำสั่ง "Scan for Viruses" หรือคำที่มีความหมายใกล้เคียง (ทั้งนี้ ขึ้นกับโปรแกรม Anti-virus แต่ละแบรนด์)
แค่นี้ก็สามารถลดปัญหาได้อย่างมากแล้วครับ สำหรับกรณีที่โปรแกรม anit-virus ของคุณ ตรวจพบไวรัส แนะนำให้ทำการ "Revove" ก่อน ถ้าไม่ได้ให้ "Quarantine" หรือ "Delete" ทิ้งไปจะดีที่สุด แต่ทั้งนี้ คงต้องพิจารณาว่า ไฟล์ที่ติดไวรัสนั้น เป็นไฟล์ของ Windows หรือเปล่า (ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไป อาจไม่สาเหตุวิเคราะห์ได้ แต่ก็ต้องเสี่ยงบ้าง)?หรือไฟล์งานของคุณหรือเปล่า

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีลงโปรแกรม ไวรัส

การติดตั้งโปรแกรม Avira AntiVir พร้อมการตั้งค่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

การติดตั้งโปรแกรม Avira Antivir พร้อมการตั้งค่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดดาวร์โหลดโปรแกรม Free antivirus - Avira AntiVir
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ www.free-av.com จากนั้นให้เรามองหาเมนู DOWNLOAD ทำการคลิ๊กเข้าไปเลย พยายามมองหา Avira AntiVir Personal - FREE Antivirus แล้วกดที่ปุ่ม Download พอกดเข้ามาแล้วมองหา Recommended Download แล้วกดปุ่มดาวร์โหลด > รอสักครู่ แล้วให้กดที่ลิ้งค์ Download Now ไฟล์ขนาด 32 ก็จะโชว์ให้เรา Save
วิธีการติดตั้งโปรแกรมร่มแดง หรือ Avira Antivir
คลิ๊กที่โปรแกรมที่เราโหลดมา จากนั้นเหมือนกันลงแบบปกติครับ Next + Ok ไปเรื่อยๆ (หากลงไม่ได้มันจะให้ Restart 1รอบนะครับ) พอคลิ๊กไปเรื่อยๆ มันจะให้เรา Update อย่าลืมต่อเน็ตด้วยนะครับ อาจจะนานหน่อย ให้ตั้งใจรอสักนิด
การตั้งค่าการใช้งานโปรแกรมต่อต้านไวรัสร่มแดง
พอมันอัพเดตเสร็จแล้ว มันอาจจะสแกนอัตโนมัติให้เราทำการกด ยกเลิกไปได้เลยครับ แล้วทำตามวิธีดังนี้ ให้เราทำการดับเบิ้ลคลิกที่ร่มแดงทางมุมขวาล่างของหน้าจอ Desktop > คลิ๊ก Configuration > ติ๊กถูก Expert mode >กด scanner ให้ยืดออกมา > กด scan ให้ยืดออกมา > ทางขวาเลือก high ตรง scanner priority > คลิ๊ก action for concerning เลือก automatic > primary action เลือก delete ทางซ้าย กด heuristic > ทางขวา เลือก high...
ทางซ้าย กด guard ให้ยืดออกมา > กด scan ให้ยืดออกมา แล้วไปที่ heuristic ทางขวาเลือก high detection level > กด ok เป็นอันเรียบร้อย
วิธีการสแกนไวรัสที่ถูกต้องสำหรับ Avira Antivir
ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่มุมขวาล่างของจอที่ร่มแดง > กด scan system now > ทำการรอและห้ามใช้โปรแกรมอื่นใดระหว่างการสแกนครั้งแรกครับ ประมาณเปิดเครื่องทิ้งไว้เลย จนกว่าจะสแกนจบ > พอขึ้น 100% ถือว่าสแกนจบแล้วให้ Restart เครื่องใหม่เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

Categories: News Blog Community

54 comments

Comment from: chaichana [Visitor]
ร่มแดงยอดเยี่ยม
27/10/2009 @ 23:10
Comment from: Pramote [Visitor]
ทำไมเวลาที่เราใช้โปรแกรมร่มแดง สแกนไวรัส เมื่อโปรแกรมตรวจเจอไวรัส โปรแกรมถึงไม่ดำเนินการใดๆกับไวรัสล่ะครับ

ทำไมจะต้องคอยมีเสียงเตือนอยู่บ่อยๆ อย่างผมดาวน์โหลดโปรแกรมร่มแดงมา ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย พอลองปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่กลับมีเสียงไวรัสเตือน เปิดใช้ ie7เพื่อจะใช้เน็ต ก็มีเสียงไวรัสเตือน ก็ถ้ามีไวรัสอยู่ในเครื่องผมว่ามันน่าจะกำจัดออกไปจากเครื่องแทนนะครับ เมื่อวานลองสแกนไวรัสดูตามที่แนะนำมา ผลปรากฏว่าสแกนไปได้แค่ 52% หน้าต่างที่กำลังสแกนอยู่กับหายไปเฉยๆ แต่ว่าที่ทาสบาร์ยังคงมีอยู่พอลองคลิกดูมันก็หายไปเลย ผมเลยลองรีสตาร์ทเครื่องดูพอเปิดมาที่หน้า desktop จากแต่เดิมที่เคยมีเสียงไวรัสเตือนกลับไม่เตือนครับคราวนี้ พอลองเปิด ie7 ดูก็ไม่มีเสียงเตือนอีก ไม่ทราบว่าเป็นที่อะไรหรือเปล่าครับ ในการสแกนมีการแจ้งเตือนอยู่หลายตัวเหมือนกัน ผมถึงสงสัยมากๆว่าถ้าสแกนเจอทำไมโปรแกรม ร่มแดง ถึงไม่ยอมกำจัดไวรัส หรือ สแปม ออกไปจากเครื่องล่ะครับ เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้ถอดตัวเก่าออกเวลาใช้งานอินเตอร์เน็ต มันจะอัพเดตเองใช่มั้ยครับเพราะจะเห็นมีหน้าต่างเล็กปรากฏอยู่ที่ด้านบนของจอ พอกำลังอัพเดตอยู่ซักพักก็จะมีหน้าต่างเข้ามาอีกอย่างเพื่อที่จะให้ซื้อลิขสิทธิ์ครับ แต่ว่าพอหลังจากถอดตัวเก่าออกแล้วลงตัวใหม่ ทำไมมันถึงไม่อัพเดตให้เห็นล่ะครับ แต่ว่ามีหน้าต่างเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาเหมือนเดิมนะครับ แล้วที่มุมขวาของจอก็มีข้อความปรากฏมาเป็นภาษาอังกฤษลองแปลๆดูก็พอจะจับใจความได้ว่ามีการอัพเดตเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยากทราบว่าทำไมถึงไม่เหมือนตัวเก่าที่ยังไม่ได้ถอดออกไปจากเครื่องล่ะครับ กับคำถามอีกคำถามนึงครับระหว่างการติดตั้งจะมีให้เราเลือกระหว่าง complete กับ custom ควรจะเลือกอะไรดีครับ ผมไม่รู้จะเลือกอะไรดีก็เลยเลือกส่งเดชไปเลยล่ะครับ ผมเลือก complete ครับ ถ้าจำไม่ผิดนะครับ จากปัญหาที่ผมสงสัยมาช่วยตอบผมด้วยนะครับ ...
28/12/2009 @ 08:04
Comment from: Help @ Blogtika [Member] Email
*****
ขอทำความเข้าใจสีกนิดนะครับ ว่าการลง Antivir จะสมบูรณ์หรือ ไม่สมบูรณ์ ขึ้นกับเวลาที่เราลงดังนี้

1. สมบูรณ์คือ ลงวินโดว์เสร็จ แล้วลง Antivir
2. เกือบสมบูรณ์คือ ลง antivir ก่อนติดไวรัส
3. ลงไม่สมบูรณ์คือ ลง antivir หลังติดไวรัส

ถ้าลงตามแบบ 1 และ 2 โอกาสที่โปรแกรมจะทำงานได้สมบูรณ์ อาจจะ100% แต่ถ้าโดนไวรัสก่อนแล้วค่อยลง นั้นอาจจะมีอาการเพี้ยนๆเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

ไวรัสมันไปลบ File ในระบบหายไปแล้ว ถึงเราลง antivir หรือป้องกันไวรัสตัวไหน มันก็ทำให้ปกติไม่ได้ครับ บางครั้ง (ที่บอกว่าเมื่อก่อนไม่เป็น) จริงๆแล้วมันอาจจะวิ่งอยู่ในระบบ ขณะที่คุณใช้โปรแกรมอย่างปกติ พอลงโปรแกรมตัวใหม่เข้าไป มันก็ไม่สมบูรณ์เพราะระบบมันเสีย ต่อให้ล้างสะอาดขนาดไหน ก็เรียกระบบคืนมาไม่ได้ครับ
29/12/2009 @ 22:54
Comment from: Help @ Blogtika [Member] Email
*****
อธิบายเรื่องระบบการทำงานของ antivir

1.เมื่อลงโปรแกรมเสร็นใหม่ๆ antivir จะทำการอัพเดตให้ระบบเป็นระบบล่าสุด ซึ่งอาจจะช้าบ้าง

2.เมื่ออัพเดตเสร็จ มันจะทำการสแกนระบบทั้งหมดให้ 1 รอบ ซึ่งเป็นการสแกนที่สำคัญมากๆ สรุปคือ เมื่อมันสแกนให้ปล่อยทิ้งไว้เลย จนครบ 100%

3.ทุกๆวัน อาจจะทุกๆชั่วโมง ระบบจะทำการอัพเดตระบบให้ โดยจะมี Pop-up โฆษณาขึ้นมา เราเพียงแต่กด ok เท่านั่น ซึ่งมันอาจจะนานหน่อยเพราะต้องเชื่อมกับระบบหลัก แต่บางครั้งเร็วสุดๆ

4.เราต้องหมั่นสแกนระบบด้วยตัวเองบ้าง เป็นการเลือกสแกนระบบเอง เลือกจุดที่สแกนเอง เพื่อให้เครื่องเราปลอดภัย
29/12/2009 @ 23:01
 
*****
ขอแนะนำโปรแกรมที่ควรจะต้องลงก่อนลง Antivir โดยขอแนะนำจากประสบการณ์ ให้ลงตามลำดับดังนี้

1. CCleaner เพื่อล้างไฟล์ขยะในเครื่อง
2. Google Toolbar ป้องกันสแปมจากการใช้ IE6,7,8
3. Antivir โหลดตัวใหม่สุด ลบตัวเก่า แล้วลงตัวใหม่